วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ความรู้เกี่ยวกับสุนัข

การเคลื่อนไหว
สุนัขบางพันธุ์สามารถวิ่งได้เร็วมาก เช่น หมาป่า ที่วิ่งได้ความเร็ว 56 ก.ม./ช.ม. สะลูกี้ และเกรย์ฮาว์น วิ่งได้เร็วถึง 70 ก.ม./ช.ม. แม้ว่าสุนัขจะวิ่งได้ไม่เร็วมากเหมือนเสือชีต้า (วิ่งได้ถึง 129 ก.ม./ช.ม.) แต่สุนัขมีลักษณะพิเศษที่ มีความอดทนสูงกว่า มันสามารถวิ่งติดต่อกันเป็นระยะทางไกลๆ เพื่อล่าเหยื่อ นอกจากนี้ สุนัขยังว่ายน้ำได้ดี โดยใช้ขากวักไปมาในน้ำ เช่น สุนัขป่าแรคคูนในจีน ญี่ปุ่น และไซบีเรีย ที่สามารถว่ายน้ำ และดำน้ำล่าเหยื่อได้เป็นเวลา หลายนาที
การดมกลิ่น
ความสามารถในการดมกลิ่นของสุนัขถือได้ว่าดีเยี่ยม (จะเป็นรองก็แค่ปลาไหลเท่านั้นแหละ) แต่ความสามารถที่ว่านี้จะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่ก็ดีกว่ามนุษย์ถึงล้านเท่าทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจที่มนุษย์จะนำความสามารถนี้มาใช้ประโยชน์นับไม่ถ้วน เช่น ในฝรั่งเศส และอิตาลีใช้สุนัขในการค้นหาเห็ด Truffle ที่อยู่ลึกลงไปในดินถึง 30 ซม. ฮอลแลนด์ และเดนมาร์คใช้สุนัขในการค้นหาแก๊สรั่ว นอกจากนี้ ยังใช้สุนัขในการค้นหาวัตถุระเบิด ยาเสพติด และคนหายอีกด้วย
สุนัขทำได้อย่างไร เราลองมาดูกัน องค์ประกอบของกลิ่นต่างๆ คือ โมเลกุลของสารเคมี ที่ล่องลอยในอากาศ สุนัขจะได้กลิ่นโดยผ่านทางเนื้อเยื่อภายในจมูก และเนื้อเยื่อ ก็จะส่งข้อมูลของกลิ่นนี้ไปยังสมอง สุนัขได้ พัฒนาทักษะในการดมกลิ่นมายาวนานมาก ว่ากันว่า พื้นที่การดมกลิ่นในจมูกของมนุษย์ ผู้ใหญ่มีประมาณ 3 ตร. ซม. แต่ของสุนัข เฉลี่ยแล้วมีถึง 130 ตร. ซม. ทีเดียว นอกจากนี้ สุนัขยังมีเส้นประสาทดมกลิ่นมากกว่ามนุษย์มาก คือ มนุษย์มีเส้นประสาทดังกล่าว 5 ล้านเซล แต่ดัชชุนมีถึง 125 ล้านเซล ฟ็อกซ์เทอร์เรีย มี 147 ล้านเซล เยอรมันเชพเพิร์ดมี 220 ล้านเซล จมูกที่เปียกยังช่วยให้การดมกลิ่นดีขึ้น คือ มันจะช่วยซึมซับกลิ่นที่ล่องลอยในอากาศ และส่งต่อไปยังเนื้อเยื่อรับกลิ่นภายในจมูก และไล่กลิ่นเดิมที่ตกค้างอยู่ออกไป
การได้ยิน
เป็นอีกสิ่งหนึ่งสุนัขทำได้ดีกว่ามนุษย์ สุนัขส่วนใหญ่มีหูใหญ่ ที่ประกอบไปด้วย กล้ามเนื้อถึง 17 มัด และสามารถบิดหูไปมาเพื่อรับคลื่นเสียงให้ตรงกับแหล่งที่มาได้ โดยมันสามารถ รับคลื่นเสียงได้ถึง 35,000 Vibration ต่อวินาที เทียบกับมนุษย์ที่ 20,000 ต่อวินาที และแมว 25,000 ต่อวินาที นอกจากนี้ มันยังสามารถแยกความแตกต่างระหว่างเสียงต่างๆ ได้ด้วย แต่ที่พิเศษยิ่งไปกว่านี้ คือ มันสามารถปิดหูชั้นใน เพื่อที่จะกรองเสียงภายนอกอื่นๆ ที่ไม่ต้องการออกไป เหลือไว้แต่เสียงที่ต้องการเท่านั้น
การมองเห็น
สุนัขสายตาไม่ดีนัก ส่วนใหญ่จึงใช้การดมกลิ่นในการล่าสัตว์มากกว่าสายตา แต่ก็มีสุนัขบางพันธุ์ที่ได้พัฒนาความสามารถในการมองเห็น จนสามารถใช้สายตา ในการล่าสัตว์ได้ เช่น เกรย์ฮาว์น เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม สุนัขไม่สามารถมองเห็นภาพสี ภาพที่มันมองเห็นจะเป็นโทนสีขาว ดำ และเทาเท่านั้น
ความสามารถอื่นๆ
สุนัขจะอ่อนไหวกับการสั่นสะเทือนมาก และในบางครั้งจะสามารถเตือนให้เราทราบถึง การสั่นสะเทือนของโลก ก่อนที่เราจะทราบเสียอีก ที่น่าแปลกคือ มันสามารถแยกแยะ ระหว่างการสั่นสะเทือนเล็กน้อย ที่เกิดจากการเลื่อนของเปลือกโลก ซึ่งมักจะเกิดขึ้น เป็นประจำทุกปี กับการเกิดแผ่นดินไหวที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้
สุนัขยังเป็นผู้อารักขาที่ทรงประสิทธิภาพอีกด้วย กรามที่ทรงพลังของมันทำให้มันกัดได้ อย่างหนักหน่วง สุนัขพันธุ์ทางหนัก 20 ก.ก. สามารถออกแรงกัดคิดเป็นแรงกดได้ถึง 165 ก.ก. ซึ่งเมื่อเทียบกับมนุษย์ผู้ใหญ่แล้ว คนเราออกแรงกัดได้เพียง 20-29 ก.ก. เท่านั้น
นอกจากนี้ สุนัขยังมีประสาทสัมผัสพิเศษอีกอย่างหนึ่ง ที่เราเรียกว่า "ประสาทสัมผัสที่ 6" จากการทดลองอย่างเข้มงวด มีหลักฐานให้เชื่อว่า สุนัขมีความสามารถในการรับรู้ เกี่ยวกับวิญญาณ และโทรจิต จึงไม่น่าแปลกที่สุนัขมักจะทราบล่วงหน้า ก่อนที่คุณจะตัดสินใจอีกว่า จะออกไปข้างนอก และปล่อยให้มันอยู่บ้านตามลำพัง! 



http://labradoronline.net/index.asp?catid=3&contentID=10000004&getarticle=11&title=%A4%C7%D2%C1%C3%D9%E9%E0%A1%D5%E8%C2%C7%A1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น